วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดนตรี - มิตรภาพ - ไร้พรมแดน

STREET MUSIC


ถ้าพูดถึง "นักดนตรีข้างถนน" หลายคนคงจะรู้จักและเคยเห็นกันเป็นอย่างดีเพราะในเมืองไทยเรานี้ก็มีอยู่เยอะพอสมควร ซึ่งผมเองนั้นก็เห็นมาเยอะไม่ว่าจะตรงสะพานลอย ข้างริมฟุตบาท บางคนก็เล่นตอนสว่าง บางคนก็เล่นกันในยามค่ำคืน แต่ส่วนมากผมจะเห็นบ่อยในยามค่ำคืนสำหรับนักดนตรีข้ามถนน บางท่านก็โชว์เดี่ยวเลย กีต้าร์ตัวนึง หรือบางท่านคนเดียวแต่เล่นเครื่องดนตรีหลายประเภท หรือบางครั้งก็เห็นมาเป็นกลุ่มๆ พวกเขาเหล่านี้มีการเล่นดนตรีไปเรื่อยๆ และมีการเปิดหมวกหารายได้บ้างนิดหน่อย แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา คือการสร้างความครื้นเครงและความสนุกสนานให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ผมว่าคนพวกนี้มีความสุขกับการที่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก คนเหล่านี้คงคาดหวังเกี่ยวกับการยอมรับมากกว่าเงินที่ได้นะ อย่างน้อยที่สุดเขาก็อยากได้เสียงปรบมือ และคำชม เป็นหลักล่ะ 

 
  •  ครั้งแรกกับการเป็นนักดนตรีข้างถนน

        ใครจะรู้ว่าในชีวิตนี้ผมจะได้มาเล่นดนตรีข้างถนนในยามค่ำคืน เคยคิดที่จะลองทำนะ แต่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาส ผมก็เคยเล่นดนตรีมาตอนม.ปลาย และเคยคิดอยากจะเล่นตามสถานที่ต่างๆบ้าง เคยไปเดินเล่นที่สวนจตุจักร เจอๆเด็กๆมาตั้งวงเล่นดนตรีหารายได้พิเศษ ผมยืนดูแล้วก็คิดในใจว่า "เออเจ๋งว่ะ อยากเล่นบ้างว่ะ" แต่ก็เป็นแค่ความคิดนะครับ ไม่เคยมีโอกาสได้ลอง การเล่นดนตรีที่ผ่านมาก็แค่ได้ขึ้นงานโรงเรียนเท่านั้นเองล่ะครับ และพอจบก็ห่างหายไปเลย จนมากระทั่งปี3 ! นี่เลยจุดเริ่มต้นของการเล่นดนตรีข้างถนนในยามค่ำคืน ผมเรียนวิชาโท ภาพยนตร์ครับ แล้วอาจารย์ก็สั่งงานให้ทำสารคดีมาหนึ่งงาน ตอนแรกพวกผมทำประวัติบัง ขายถั่ว แต่... ไม่สำเร็จครับ อาจารย์เลยบอกให้ลองเปลี่ยนเรื่ิอง ลองงัดความเป็นตัวเองออกมา แล้วพวกผมเนี่ยก็ ปิ๊ง!!! เกิดความคิดครับ เรื่องดนตรีก็เป็นสิ่งที่พวกเราชอบกันอยู่แล้ว เลยจะทำสารคดีการเล่นดนตรีข้างถนน ซึ่งผมและเพื่อนอีก2คน ชื่อ บิ๊ก กับ ไวท์ (ผม นนท์ นะ) ก็อยากลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ อยากไปเล่นดนตรีกัน เลยอาสาเป็นนักดนตรีมันซะเลย เพื่อนผมสองคนเล่นกีต้าร์นะครับ ส่วนผมเล่นดนตรีกลองชุดครับ แต่งานนี้ต้องใช้ "ลูกแซกไข่" ครับ มันจะมีรูปทรงเหมือนไข่ เอาไว้เขย่าเป็นจังหวะครับ

        และแล้ววันแรกของการถ่ายทำก็มาถึง พวกผมดิ่งตรงไปสนามหลวงกันเลยครับ กะว่าจะไปเล่นกันตรงตลาดกลางคืนแถวๆนั้น ไปกันทั้งหมด5คนครับ อีกสองคนเป็น ตากล้อง(เมย์) ผู้กำกับ(แมงมุม) ตอนแรกกะไปเล่นในคลองหลอดเลยครับ แต่คนเยอะเหลือเกิน แล้วเป็นครั้งแรกด้วย ความอายมาบังเกิดครับ ต้องมาหลบมุมเล่นตรงที่เงียบๆ ตอนแรกอารมณ์ในการเล่นยังไม่มาครับ พวกผมอายๆเขินๆกันอยู่ ต้องตบเบียร์กันสักหน่อย ก็เริ่มมาล่ะ ก็เล่นๆกันไป คนก็ไม่ค่อยมีนะครับ แต่ก็เล่นไปเรื่อยๆ จนถ่ายทำเสร็จล่ะครับ

ภาพเก็บตกครับ

อันนี้ก็ถ่ายทำเสร็จครับ เล่ยถ่ายรูป พอดีตอนเล่นไม่ได้ถ่ายไว้  


 



ถ่ายกำผู้กำกับครับ คนที่สองนับจากขวา
  
อันนี้เดินทางมาเข้าห้องน้ำ คนซ้ายสุดตากล้องสาวของเราครับ

          นี่คือภาพของวันแรกครับ จริงๆแล้วเราจะไปเล่นที่ข้าวสารกันต่อ แต่วันนั้นสถานที่ไม่เอื้ออำนวยครับ ทั้งเหนื่อยทั้งล้า เลยไม่มีภาพถ่ายอะไรมา กลับมาก็ล้ามากมาย ต้องรีบนอนเลยครับ เพราะวันที่สองก็ต้องมาถ่ายทำที่ข้าวสารอีกล่ะครับ


  • เข้าสู่คืนที่สองของการเล่นดนตรีเปิดหมวก
        คืนที่สองของพวกเราก็มาถึงแล้วครับ ดิ่งตรงไปสนามหลวงที่เดิมไปถ่ายทำเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย ก็ไม่เหนื่อยครับ ชิวๆ  หลังจากนั้นเราก็มุ่งไปข้าวสารกันเลย หาทำเลดีๆกันอยู่ครับ ก็ไปจ๊ะเอ๋กับสถานีตำรวจตรงหน้าข้าวสารอ่ะครับ ไฟสว่างดีจัง แล้วก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาครับ และอีกอย่าง เล่นไปไม่ต้องกลัวอะไร มีตำรวจคุ้มครองอยู่แน่ๆ ฝรั่งเพียบเลยครับ น่าตื่นเต้นมาก และพวกผมก็ขนเพลงฝรั่งมาเล่นกันด้วย !!! 

 วันนี้เต็มที่ครับ กะแบบว่าเล่นกันให้สนุกไม่เกร็ง แต่ฝรั่งเยอะเหลือเกิน เดินไป เดินมา ชักเกร็งละ เล่้นกันเบามากๆ บางคนเขาก็อยากจะฟังเรานะ บางคนนี่หยุดเลยรอฟัง พวกผมก็อายกัน เราก็เล่นดนตรีไม่ได้เก่งอะไรมากนัก มาเจอคนรอดูอย่างนี้กดดันกันเลย แต่ส่วนมากก็ไม่ค่อยมีใครเดินเข้ามานะครับ อาจจะเห็นกล้องที่เราถ่ายทำกันอยู่เลยไม่กล้าเข้ามา พวกเ้ราก็อาย เขินๆกันอยู่ แต่สักพักอารมณ์ศิลป์ก็เริ่มเข้ามาครับ เริ่มอินกับเพลง เริ่มมีความสนุกในการเล่น จนมีเพลง เพลงนึง ของวงOasis ซึ่งเราก็เล่นกันอยู่ จู่ๆมีชาวต่างชาติคนหนึ่ง เขาเอียงหูครับ เอียงมาฟังเราเล่น



จนเล่นเสร็จล่ะครับ เลยได้มีการคุยกัน บังเอิญจริงๆครับ ชายคนนี้ดันชอบวงOasis ซึ่งเราก็กำลังเล่นเพลงวงนี้กันอยู่พอดี ทีนี้ได้เรื่องเลยครับ คุยกันยาว ไอ้ผมอ่ะคุยไม่ค่อยเป็นหรอกครับ ต้องให้เพื่อนอีกคนคุย ซึ่งก็นะ แปบเดียวก็สนิทกัน ถูกคอกันไป  พวกผมก็เริ่มที่จะสนุกละครับ คุยกันไปคุยกันมา ลากมาร้องเพลงด้วยเลย น่ารักดีครับ เขาก็ร้องไม่ค่อยเก่งนะ เป็นคนฝรั่งเศส ชื่อนิโคล่า แต่ถ้าชื่อภาษาอังกฤษก็ นิโคลัส เขาก็พูดอังกฤษได้นะครับ เพื่อนผมก็ชวนคุยป๋อเลย คุยไป ร้องเพลงไป นิโคลัสก็มาแจมด้วย





นิโคลัส มาสวมบทนักร้องนำให้พวกเราครับ

 หลังจากที่ได้คุยได้เล่นดนตรีกับนิโคลัส จู่ๆก็มีฝรั่งมาจากไหนก็ไม่รู้ เดินเข้ามา ฟังเพลงของพวกเรา หยุดฟังกันนิ่งเชียว คราวนี้เป็นสองสาวครับ ข๊าว ขาว เธอก็เข้ามาคุย มาขอเพลง พวกเราก็ไปแล้วครับ เล่นไม่อายแล้ว ใส่กันเต็มที่ เล่นให้เขาฟัง เขาก็นั่งร้องตามกันนะครับ เป็นอะไรที่สนุกมากวันนี้ ได้อะไรมาเยอะเลยครับ ตอนแรกกะแค่เล่นๆและรีบถ่ายทำให้เสร็จ กลายเป็นว่ายาวกันเลยครับ พอเจอชาวต่างชาติคอเดียวกันเรื่องแนวเพลง กลายเป็นว่าได้อะไรมาเยอะเลย ได้ทั้งมิตรภาพใหม่ และประสบการณ์ 






ถ่ายรูปรวมกันหน่อยย



พวกผมรู้ซึ้งกันเลยทีเดียวกับการเล่นดนตรีแบบนี้ ซึ่งมันไม่เหนื่อยเลยครับ พอมาเจอกับมิตรภาพดีๆ และคำชมดีๆจากชาวต่างชาติ เรื่องเงินเปิดหมวกไม่ได้นึกถึงเลยครับ ลืมกันไปเลย รู้สึกดีเวลา มีคนฟัง มีคนชม มีคนชอบ มันรู้สึกดีๆจริงๆครับ โคตรมีความสุขเลย 


นี่ ครับ 30บาท ถึงมันจะน้อย แต่พวกเราก็มีความสุขมากๆครับวันนี้

ก่อนกลับเราก็ให้ของที่ระลึกกับชาวต่างชาติกันไปครับ ผมให้ลูกแซกเขาไป เพื่อนผมอีกคนก็ให้ปิ๊กกีต้าร์ ที่ให้คือนิโคลัสนะครับ นอกนั้นเขาก็แยกย้ายกันไปหมดแล้ว แต่ก็ได้ถามชื่อแซ่กันไว้ละ แต่ผมดันลืมชื่อสองสาวนั้นไปแล้ว จำได้ก็แต่นิโคลัสคนเดียว ฮ่าๆ แล้วพวกเราก็ได้ขออีเมล์เขามาเป็นที่เรียบร้อย แอดเฟสบุ๊คไปแล้วด้วยครับ 

        นี่ล่ะครับเรื่องราวการเล่นดนตรีข้างถนนนของพวกผม ซึ่งได้อะไรกลับมาเยอะแยะเลย ทำให้มีกำลังใจอยากไปเล่นต่อมาก ก็คิดกันไว้แล้วครับว่าจะมาเล่นกันอีก มาเพื่อเล่นโดยเฉพาะเลยไม่ได้ถ่ายทำอะไรทั้งสิ้น เพราะเกิดความอยากเล่นละครับ เจออะไรดีๆแบบนี้เข้าไป มันก็อยากจะเล่นอีก คุณเคยได้ยินคำๆนึงไหมครับ ที่ว่า "ดนตรีไร้พรมแดน" ผมว่ามันเป็นเรื่องจริงนะั ^^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น